ข่าวบันเทิง 2023-04-10 11:19:04 23.32k
ดีเจแมน - ใบเตย ร่ำไห้ ชี้แจงส่วนเกี่ยวข้องกับ อภิรักษ์ ปม คดี Forex-3D

เป็นการออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกครั้งแรกสำหรับคู่สามีภรรยาอย่าง ดีเจแมน พัฒนพล และ ใบเตย สุธีวัน หรือ ใบเตย อาร์สยาม กรณีตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดี แชร์ลูกโซ่ Forex-3D หลัง DSI มีการตรวจสอบ และพบว่าเส้นทางการเงินของทั้งคู่ อาจจะมีความเกี่ยวโยงกับ อภิรักษ์ โกฎธิ เจ้าของ Forex-3D ซึ่งเคยร่วมเฟรมกันหลาครั้งอีกด้วย




ล่าสุด ก่อนที่ทั้งคู่จะไปขึ้นศาล เพื่อต่อสู้คดีในวันที่ 10เม.ย. 55 ดีเจแมน - ใบเตย และ ลุกซ์ ผู้จัดการส่วนตัว พร้อมทั้ง ทนายอมร กุศล ก็ได้ออกมาตอบทุกข้อสงสัยกับสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเส้นทางการเงิน หรือรูปถ่ายที่เคยได้ร่วมเฟรมกับ อภิรักษ์ เมื่อวานนี้ 9 เม.ย. ทั้ง 4 คน จึงขอตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่อชี้แจงความจริง จากปากของทั้ง ใบเตย และ แมน ก่อน เพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าวันที 10 เม.ย. จะเกิดอะไรขึ้น



โดย ดีเจแมน เผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีกีอน ในขณะที่ตนยังทำงานเป็นดีเจอยู่ ตนได้รู้จักกับ อภิรักษ์ เป็นครั้งแรก โดยเขาเข้ามาในฐานะแฟนคลับคนหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มมีการนำพระมาให้ และได้มีการเช่าพระ และวัตถุมงคลกันในเวลาต่อมา โดยพระที่ตนได้นำไปปล่อยเช่าให้กับ อภิรักษ์ ในตลอดระยะเวลาทั้งหมด 4 ปี มีจำนวนทั้งหมด 4 ชิ้น ซึ่งรวมเป็นมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ทำให้เป็นที่มาของเส้นทางการเงินที่เจ้าหน้าที่ DSI สงสัยกันนั้นเอง



กรณีรูปถ่าย ที่มีการร่วมเฟรมกับ อภิรักษ์ อยู่บ่อยครั้งนั้น ดีเจแมน กล่าวว่า บ่อยครั้งที่ อภิรักษ์ มักจะขอติดตามตนไปในที่ต่างๆ ทำให้มีภาพร่วมกันเยอะ โดยภาพกินข้าวบนดาดฟ้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งก็เช่นกัน ความจริงคือตนแค่ไปกินข้าวกับรุ่นพี่ แต่ อภิรักษ์ ขอตามมาด้วย ส่วนภาพที่มีการร่วมเฟรมกันในห้องประชุม เป็นเพียงการคุยกันเรื่องธุรกิจถั่งเช่า ไม่เกี่ยวกับ Forex-3D แต่อย่างใด และอีกภาพที่มีการนั่งประชุมกันที่บริษัท เป็นเพียงการพูดคุย ให้คำปรึกษากันเรื่องการทำมูลนิธิ เนื่องจากครอบครัวของตนทำ มูลนิธิเด็กพิการ มานานแล้ว




ทั้งนี้ ดีเจแมน ยืนยันว่าตน และครอบครัว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Forex-3D ตนไม่เคยชักชวนใครให้มาร่วมลงทุน และไม่เคยทราบมาก่อนว่า อภิรักษ์ ทำอะไรแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนต้องขอโทษผู้เสียหายทุกคน ถึงแม่จะไม่ได้ออกมาพูดแต่ตนก็ไม่นิ่งนอนใจ ยังคงช่วยเหลือประชาชนโดยการให้การที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวนมาโดยตลอด ดีเจแมน ยืนยันอีกว่าตนไม่เคยหลบหนีอย่างที่เป็นข่าว อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ใบเตย เองก็ยืนยันเช่นกัน พวกเธอไม่เคยมีพฤติการณ์เช่นเดียวกันกับผู้ต้องหากลุ่มแรก เพราะพวกเธอไม่มีลูกข่าย หรือผู้เสียหาย แต่หากมีจริงก็ให้นำพยานหลักฐานที่แสดงว่าได้รับการชักชวนจากพวกเธอมายืนยันได้เลย




ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัย กล่าวหาว่าตนร่ำรวยผิดปกติ ดีเจแมน เผยว่า จริงๆ แล้วทุกวันนี้ทั้งบ้าน และรถยนต์ของตนก็ยังต้องผ่อนอยู่ตามปกติ ด้าน ใบเตย กล่าวเสริมทั้งน้ำตาว่า พวกเธอพอจะมีกำลังในกาีเดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะมาได้รู้จักกับ อภิรักษ์ รวมถึงการทำคอนเทนท์ต่างๆ ที่ถูกสังคมจับตามองนั้น ในช่วง โควิด ตนต้องขยันมากเป็นพิเศษ ต้องทำงานหนัก ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย มีมีงานร้องเพลง ไม่ได้ทำในสิ่งที่รักตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกเสียใจกับหลายเรื่องเป็นอย่างมาก




อย่างไรก็ตาม ดีเจแมน ยอมรับว่าหวั่นใจ เพราะหลายคนรอบข้างที่โดนคล้ายๆ ก็เริ่มทยอยโดนจับกันไปหมด ตอนนี้มีการเตรียมหลักทรัพย์ไว้บ้างแล้ว แต่หากพรุ่งนี้ศาลมีคำสั่งฟ้อง และไม่ได้รับการประกันตัวก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่รอดก็คือไม่รอด พวกตนทำใจกันบ้างแล้ว ตนขอเพียงโอกาสได้พูดความจริง เพื่อต่อสู้ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้สังคมได้รับรู้ และตนมั่นใจว่าตนสามารถชี้แจงได้ทุกข้อสงสัย ซึ่งถ้าหากว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์จริง หลังจากนี้ตนจะขอให้กฎหมายทวงคืนความยุติธรรมให้กับตนเอง และครอบครัวเช่นกัน พร้อมกับเผยว่าตอนนี้รวบรวมหลักฐานมานานกว่า 2 ปีแล้ว




ในส่วนของความเชื่อมโยงเรื่องเส้นทางการเงินของเธอ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจจะเกี่ยวโยงกับ อภิรักษ์ นั้นมีทั้งหมด 3 รายการด้วยกัน รวมเป็นเงินตำนวน 990,000 บาท ซึ่งเธอได้ยื่นพยานหลักฐานทั้งบุคคล และเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรายการแรกเป็นเงินนจำนวนเงินที่มากที่สุด คือเงินที่ อภิรักษ์ ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมจากตนให้ภรรยาของเขา จำนวน 550,000 บาท , รายการที่ 2 เป็นค่าตั๋วเครื่องบิน และรายการสุดท้ายเงินที่ตนยืมจากภรรยาของ อภิรักษ์




สุดท้าย ทั้งสองคนเผยว่าสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดนั้นก็คือ น้องเวทมนต์ ลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของทั้งสองคนนั้นเอง 


รูปภาพเพิ่มเติม